แบตเตอรี่รถยนต์เลือกยี่ห้อไหนดี

แบตเตอรี่รถยนต์

แบตเตอรี่ทรงจัตุรัส รองรับรถยนต์ไฟฟ้า Toyota ผนึกกำลัง Panasonic พัฒนาแบตเตอรี่ทรงจัตุรัส การร่วมทุนครั้งนี้มีเป้าหมายให้บริษัทของญี่ปุ่นกลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่รถยนต์ ซึ่งมีผลสำคัญต่อการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่ไม่แพง และตามกฎข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดทั่วโลกได้เร่งให้เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย แบตเตอรี่ถือเป็นคำตอบสำหรับพลังงานในรถยนต์ไฟฟ้า การเคลื่อนที่ในรูปแบบต่างๆ และอุปกรณ์ประเภทต่างๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยคาดหวังว่าจะบรรลุเป้าหมายในบทบาทเป็นศูนย์กลางให้สังคมเคลื่อนที่ไปข้างหน้า Panasonic เป็นซัปพลายเออร์จัดหาแบตเตอรี่ทรงกระบอกสำหรับ Tesla Motor, Inc. ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ แต่เพียงผู้เดียว แต่กำลังต้องการขยายฐานลูกค้าโดยก้าวสู่การพัฒนา Prismatic Batteries ที่ได้ใช้กันอย่างแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรม และ ราคาแบตเตอรี่ สัปดาห์ที่ผ่านมา Tesla จับมือกับ LG Chem ของเกาหลีใต้ และ CATL ของจีนเพื่อจัดหาแบตเตอรี่ให้กับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังขยายและแบตเตอรี่กำลังเป็นที่ต้องการ

ส่วน Toyota ซึ่งได้บุกเบิกรถยนต์ Prius Hybrid ที่ใช้เชื้อเพลงคู่กับแบตเตอรี่ในปี 1997 มีเป้าหมายที่จะได้ยอดขายครึ่งหนึ่งจากรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2025 และตอนนี้กำลังพัฒนาแบตเตอรี่ทั้งของตัวเองและก้าวสู่การเป็นซัปพลายเออร์รายใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงความขาดแคลนแบตเตอรี่สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า คุณรู้หรือไม่ ในปี 1996 Toyota และ Panasonic เคยร่วมมือกันวิจัยแบตเตอรี่และได้ร่วมทุนก่อตั้งบริษัทเพื่อผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดที่เรียกว่า Primearth EV Energy ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่า เมื่อเพื่อนเก่าผนึกกำลังกันตำแหน่งซัปพลายเออร์จัดหาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าใหญ่ระดับโลกคงอยู่ไม่ไกล และที่สำคัญเมื่อมีซัปพลายเออร์เข้ามาแข่งขันในตลาดจำนวนมากย่อมทำให้ราคาแบตเตอรี่ถูกลง และ ราคารถยนต์ไฟฟ้าไม่แพงเกินเอื้อม

แบตเตอรี่รถยนต์ ถือว่ามีความสำคัญกับรถยนต์อย่างมาก เพราะหากไม่มีมันรถของคุณก็จะสตาร์ทไม่ติด และเคลื่อนที่ไปไหนไม่ได้โดยเฉพาะในหน้าฝน เพราะหากเครื่องดับเนื่องจากเจอฝนตกหนัก หรือลุยน้ำท่วมสูง มันก็คงจะแย่ไม่ใช่น้อย วิธีดูแลแบตเตอรี่ในหน้าฝน แบตเตอรี่ ถือว่ามีความสำคัญกับรถยนต์อย่างมาก เพราะหากไม่มีมันรถของคุณก็จะสตาร์ทไม่ติด และเคลื่อนที่ไปไหนไม่ได้โดยเฉพาะในหน้าฝน เพราะหากเครื่องดับเนื่องจากเจอฝนตกหนัก หรือลุยน้ำท่วมสูง มันก็คงจะแย่ไม่ใช่น้อย การขับรถลุยจุดที่มีน้ำท่วมสูง คุณควรจะค่อยๆ ขับผ่านไปอย่างช้าๆ พยายามอย่าให้น้ำกระฉอก หรือกระเซ็นเข้าไปภายในห้องเครื่อง เพราะระบบไฟฟ้าต่างๆ เช่น แบตเตอรี่ ไดชาร์จ หรือกล่องฟิวส์ ฯลฯ หากโดนน้ำมากๆ จนเกิดความชื้นขึ้นมา รถของคุณอาจดับกลางถนนได้ หากเลี่ยงได้ควรจะเลี่ยงไปทางอื่นดีกว่า

สำหรับวิธีดูแลแบตเตอรี่ ใน ช่วงหน้าฝนที่คุณต้องทำก็คือ ตรวจดูขั้วแบตเตอรี่ เนื่องจากโลหะ หรือทองแดงที่เป็นตัวนำกระแสไฟฟ้า เมื่อโดนน้ำจะทำให้เกิดขี้เกลือขึ้นมาได้นั่นเอง ซึ่งนอกจากจะทำให้รถสตาร์ทไม่ติดแล้ว มันอาจส่งผลทำให้ระบบไฟช๊อต หรือไฟรั่วได้อีกด้วย วิธีกำจัดขี้เกลือที่ขั้วแบตเตอรี่ สามารถทำได้ง่ายๆ โดยให้คุณเตรียมกระดาษทรายเบอร์กลางๆ หรือแปรงลวด และน้ำสะอาดนิดหน่อย เพื่อเป็นตัวช่วยให้การขัดทำได้ง่ายขึ้น และหลังจากขัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้น้ำผ้าแห้งมาซับน้ำออกให้หมด เสร็จแล้วฉีดสเปรย์ไล่ความชื้นลงไป สุดท้ายจึงค่อยทาจารบีเคลือบไว้บางๆ อีกทีหนึ่ง ที่สำคัญอย่าลืมตรวจดูตาแมว หรือเช็กประจุไฟแบตเตอรี่ด้วย ว่ายังมีพอให้ใช้งานอยู่หรือไม่ รวมไปถึงน้ำกลั่นกับแบตเตอรี่แบบเปียกด้วย ดูว่ามันพร่องไปมากน้อยแค่ไหน และหากแบตฯ ใช้งานมานาน หรือแบตฯ เริ่มเสื่อมแล้ว ให้จัดการเปลี่ยนใหม่ทันที จะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง

แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว สาเหตุเกิดจากอะไร แบตเตอรี่ ยี่ห้อไหนดี แบตเตอรี่รถยนต์ ถือเป็นอะไหล่สิ้นเปลืองอีกชิ้นหนึ่งที่มีความจำเป็น และสำคัญมากๆ ต่อระบบรถยนต์ เพราะหากไม่มีแบตเตอรี่ รถของคุณก็จะสตาร์ทไม่ติด ไปไหนไม่ได้ แถมระบบไฟต่างๆ ก็ไม่สามารถทำงานได้อีกด้วย สำหรับตัวแบตเตอรี่เองก็เหมือนกับชิ้นส่วนอื่นๆ เมื่อใช้งานไปแล้วก็ย่อมมีการเสื่อมสภาพลง แต่หากคุณสามารถชะลอ หรือยืดอายุการใช้งานได้ มันก็คงจะดีไม่น้อย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว คุณสามารถทำได้ หากอยากให้แบตเตอรี่อยู่กับรถคุณไปนานๆ แค่ทำตามนี้ ใส่ขั้วแบตเตอรี่ให้แน่น เพื่อทำให้การจ่ายไฟมีประสิทธิภาพเต็มที่ เพราะหากขันขั้วแบตฯ ไม่แน่นพอ การจ่ายไฟก็จะมีปัญหา และทำให้แบตฯ เสื่อมเร็วขึ้น ตรวจดูระดับน้ำกลั่นเป็นประจำ สำหรับรถที่ใช้แบตเตอรี่แบบเปียกที่ต้องเติมน้ำกลั่น ให้เช็กระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง แต่ถ้าไม่อยากตรวจดูบ่อยๆ แนะนำให้ใช้แบตเตอรี่แบบแห้งไปเลย เพื่อตัดปัญหา ตรวจสภาพตัวแบตเตอรี่ หากตัวแบตฯ มีรอยผิดปกติ แตก หรือร้าว มันจะส่งผลให้น้ำกลั่นที่อยู่ภายใน ไหลออกมาทำลายชิ้นส่วนอื่นๆ และยังทำให้เก็บประจุไฟฟ้าไม่ได้อีกด้วย

ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ เนื่องจากแบตฯ ที่ผ่านการใช้งานมาสักระยะ จะเกิดคราบขี้เกลือ เกาะติดที่ขั้ว จึงทำให้กระแสไฟฟ้าจากแบตฯ ไหลผ่านต่อไปยังส่วนอื่นๆ ไม่สะดวก ให้แก้ไขด้วยการนำน้ำโซดา หรือน้ำร้อนราดลงไปที่ขั้ว จากนั้นใช้แปรงสีฟันเก่าขัดคราบขี้เกลือออกให้หมด แล้วใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง ตรวจสอบระบบไฟชาร์จ หากระบบไฟชาร์จสูงเกินไป จะทำให้น้ำกลั่นระเหยเร็วขึ้น แต่ถ้าระบบไฟชาร์จต่ำเกินไป จะมีผลทำให้กำลังไฟไม่พอใช้ สตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติดนั่นเอง แม้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ส่วนใหญ่จะใช้ได้ 1.5 - 2 ปี แต่ก็มีบ้างที่แบตฯ จะเสื่อมเร็ว หรือเสื่อมช้ากว่าปกติ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน แต่ถ้าคุณหมั่นตรวจสอบบ่อยๆ ดูแลรักษาอยู่เป็นประจำ ก็จะทำให้แบตเตอรี่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และอยู่คู่กับรถของคุณไปอีกนาน

เครดิตจาก : https://www.batteryok.net/

© Copyright Manemandictic